วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561


1. ชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ณ ฟุระโนะ
  

        เมืองฟุระโนะตั้งอยู่ใจกลางฮอกไกโดพอดี เป็นที่รู้จักกันในนามทุ่งดอกไม้ที่มีภูเขาล้อมรอบไว้ ทำให้ที่นี่มีความแตกต่างของอากาศในช่วงฤดูหนาวกับฤดูร้อนราว 30 องศา และที่สำคัญที่นี่มีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวทั้งในช่วงฤดูร้อนและฤดู หนาว ในหน้าร้อนจะมีสวนดอกไม้ที่สวยงาม โดยเฉพาะที่ ฟาร์มโทมิตะ ซึ่งมีการปลูกลาเวนเดอร์ที่ทั้งสวยงามและกว้างใหญ่ไพศาล รวมทั้งดอกไม้อื่น ๆ โดยที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวมากในช่วงปลายเดือนมิถุนายนจนกระทั่งกลางเดือน กันยายน ส่วนในช่วงฤดูหนาวที่นี่จะปกคลุมไปด้วยหิมะหนามาก ทำให้กลายเป็นลานสกีที่มีชื่อเสียง และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับลานสกีในช่วงกลางเดือนธันวาคม ถึงกลางเดือนมีนาคมของทุกปี

2. ฮอกไกโด



               
ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของ ญี่ปุ่น ถือเป็นสวรรค์ของธรรมชาติ สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี มีธรรมชาติที่ยังไม่ถูกทำลาย ทั้งภูเขา ที่ราบสูง แม่น้ำ ทะเลสาบ บ่อน้ำพุร้อน และชายฝั่งทะเล มีอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว มีหิมะที่ขาวละเอียดดุจแป้งฝุ่นและสกีรีสอร์ท ที่ดึงดูดนักเล่นสกีจากทั่วโลก ขณะที่ในฤดูใบไม้ผลิ ซากุระจะบานช้ากว่าภูมิภาคอื่นในญี่ปุ่น สามารถชมซากุระได้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ส่วนฤดูร้อนอากาศจะไม่ร้อนเหมือนส่วนอื่น ๆ เพราะมีทุ่งดอกไม้ต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และในฤดูใบไม้ร่วงใบไม้จะเปลี่ยนสีก่อนที่อื่น ๆ ในประเทศญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกันยายนจนถึงตุลาคม

3. วัดโทไดจิ



               วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) วัดพุทธที่สำคัญและเก่าแก่ที่สุดของเมืองนารา ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งก่อสร้างด้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกร่วมกับศาลเจ้าและสถานที่สำคัญ ของเมืองนาราอีก 7 แห่ง ภายในวัดมี หอไดบุทสึ (Daibutsuden) หรือ วิหารไม้ที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไดบุทสึหล่อสำริดขนาดใหญ่ สูง 14.98 เมตร น้ำหนักราว 500 ตัน หล่อโดยช่างสมัยเท็มเปียว (729-764)


4. โอซาก้า


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โอซาก้า

                เมืองโอซาก้า (Osaka) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามของญี่ปุ่น และเป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสำหรับญี่ปุ่นตะวันตก ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำโยโดะ มีคลองที่เชื่อมโยงกันไปมาภายใต้ถนนหลายเส้น ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยสำคัญที่นำความเจริญก้าวหน้ามาสู่เมือง และในฐานะที่เป็นเมืองดั้งเดิมจึงมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นต้นแบบของ ละครหุ่นกระบอกบุนระคุ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังไม่ควรพลาดชม อ่าวโอซาก้า ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางความทันสมัยที่สุด และสวนสนุก Universal Studios Japan


5. ภูเขาฟูจิ


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


  ภูเขาฟูจิ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และอาจกล่าวได้ว่าเป็นภูเขาที่สวยที่สุดในโลก มีความสูงถึง 3,776 เมตร ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดยะมะนะชิและชิซุโอะกะ และสามารถมองเห็นได้จากโตเกียวและโยโกฮาม่าในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง วิธีที่จะได้เห็นภูเขาฟูจิที่ง่ายที่สุด คือ นั่งชมจากรถไฟสายโทไกโดที่วิ่งระหว่างเมืองโตเกียวและโอซาก้า ถ้าคุณนั่งชินกันเซ็นจากโตเกียวที่มุ่งหน้าไปยังนาโงย่า เกียวโต และโอซาก้า ช่วงที่จะได้เห็นภูเขาฟูจิ คือ ช่วงสถานีชิน-ฟูจิ หรือประมาณ 40-45 นาที หลังจากออกจากโตเกียว ซึ่งจะมองเห็นได้ทางด้านขวามือของรถไฟ แต่สำหรับผู้ที่อยากชมภูเขาฟูจิอย่างเต็มอิ่ม และแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงามขอเชิญที่ ทะเลสาบทั้งห้า (Fuji Five Lake or Fujigoko) หรือที่ ฮะโกะเนะ ซึ่งเป็นรีสอร์ทบ่อน้ำพุร้อนและเป็นหนึ่งใน อุทยานแห่งชาติ Fuji-Hakone-Izu

6. พระราชวังอิมพีเรียล




           พระราชวังอิมพีเรียล แต่เดิมมีชื่อว่า พระราชวังเอะโดะ อีก หนึ่งสถานท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว เพราะเป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เมจิ แห่งประเทศญี่ปุ่น เดิมที่นี่เป็นหมู่บ้านประมงเล็กที่ชื่อ เอะโดะ ที่ถูกตั้งเป็นฐานที่มั่น รวมทั้งถูกตั้งเป็นศูนย์กลางของรัฐบาลทหาร ต่อมาได้ขยายเมืองให้ใหญ่ขึ้น จนมีประชากรและพื้นที่เมืองขนาดใหญ่มากขึ้น หลังจากนั้นเข้าสู่ยุคปฏิรูปเมจิ การล้มล้างการปกครองแบบโชกุนลง จักรพรรดิเมจิจึงย้ายเมืองหลวงมาที่เอะโดะ และเปลี่ยนชื่อเมืองเป็นโตเกียวในปัจจุบัน ที่นี่จึงเป็นศูนย์กลางทางการปกครองและวัฒนธรรมของประเทศ และถูกเปลี่ยนให้เป็นพระราชวังในเวลาต่อมา มีชื่อเรียกว่า พระราชวังอิมพิเรียล ในปัจจุบัน

7.เมืองอิเนะ



         อิเนะโนะฟุนายะ (inenofunaya) นั้นมาจากการเรียกที่ตั้งจาก อ่าวอิเนะ (Ine Bay) โดยมีบ้านเรือนสไตล์ฟุนายะ (Funaya) 230 หลังทอดยาวเป็นแนวเส้นโค้งสวยงามริมอ่าวเป็นระยะทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร ทำให้มีชื่อเรียกย่านเถวนี้ว่า อิเนะโนะฟุนายะ (Inenofunaya) เนื่องจากอยู่ติดกับริมน้ำมาก จึงได้มีการสร้างบ้านแบบชาวประมง โดยที่ลงเรือออกทะเลจากชั้นหนึ่งของตัวบ้านได้ทันที ส่วนชั้นสองใช้เป็นที่อยู่อาศัย


8.โรงกลั่นเหล้ามุไคชุโซ 



               
        โรงกลั่นเหล้ามุไคชุโซ (Mukai Shuzo) แห่งนี้เปิดดำเนินการมา 260 ปีแล้ว และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันว่าช่างฝีมือผู้กลั่นเหล้าญี่ปุ่นของที่นี่เป็นผู้หญิงทั้งหมด เหล้าที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษของที่นี่ก็คือ เหล้า“อิเนะมังไค” (Ine Mankai) ซึ่งมีรสหวานและมีสีเหมือนไวน์โรเซ่

 9.อิเสะ , มิเอะ


   
          อิเสะเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี และเป็นที่ตั้งของ ศาลเจ้าอิเสะจิงกู (Ise-jingu Shrine) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น บ้านเกิดแห่งจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่น”สำหรับชาวญี่ปุ่นในสมัยก่อน การได้มาสักการะที่ศาลเจ้าอิเสะจิงกูแห่งนี้คือความใฝ่ฝันอันยิ่งใหญ่ ทุกผู้ทุกคนล้วนปรารถนาที่จะได้ไปเยือนศาลเจ้าอิเสะจิงกูให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต ในปัจจุบันศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่นิยมในฐานะแหล่งรับพลังเสริมดวงชะตาหรือ power spot และมีผู้คนทุกเพศทุกวัยเดินทางมาสักการะนมัสการกันไม่ขาดสายเป็นจำนวนกว่า 8.5 ล้านคนต่อปีเลยทีเดียว

10.หุบเขาคุโรเบะ


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
        
           ตั้งอยู่ในจังหวัดโทยามะ (Toyama) เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ตั้งอยู่ในป่าทางทิศเหนือของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ตัดผ่านแม่น้ำคุโรเบะ (Kurobe River) และนับเป็นหนึ่งในหุบเขาที่ลึกที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วยแนวหน้าผาสูงชัน ป่าหนาทึบที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นคือหุบเขารูปตัววี (V) ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะยิ่งทวีความงดงามยิ่งใหญ่ตระการตา โดยจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปยัง หุบเขาคุโรเบะ คือสถานีอุนะซุกิ (Unazuki Station) เป็นที่ตั้งของอุนะซุกิ อนเซ็น (Unazuki Onsen) มีแหล่งช็อปปิ้งและน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดโทยามะซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นโรงแรมและร้านขายของที่ระลึก